หน้าเว็บ

ต้นงิ้ว



งิ้ว 
ชื่อสามัญ Cotton tree, Kapok tree, Red cotton tree, Silk cotton, Shving brush
ชื่อวิทยาศาสตร์ Bombax ceiba L. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Bombax malabaricum DC., Gossampinus malabarica Merr.)

สมุนไพรงิ้ว มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า งิ้วบ้าน (ทั่วไป)งิ้วแดง (กาญจนบุรี)งิ้วปง งิ้วปกแดง สะเน้มระกา (ชอง-จันทบุรี)งิ้วป่างิ้วปงแดงงิ้วหนามนุ่นนางตอเหมาะ (กะเหรี่ยงแดง)ปั้งพัวะ (ม้ง)บักมี้ (จีน) เป็นต้นชนิดของต้นงิ้ว

ชนิดของต้นงิ้ว
ต้นงิ้ว หรือ งิ้วป่า จัดเป็นพืชในสกุล Bombax ในประเทศมีรายงานว่ามีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด ได้แก่
 ชนิดที่ 1 "งิ้ว" มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bombax ceiba L. (กล่าวในบทความนี้)
  ชนิดที่ 2 "งิ้วป่าดอกแดง" มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bombax insigne Wall.
 ชนิดที่ 3 เป็นชนิดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bombax anceps Pierre และยังสามารถแยกออกได้อีก 2 ชนิดย่อย ได้แก่"งิ้วป่า" (งิ้วป่าดอกขาว) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bombax anceps Pierre var. anceps* (ชื่อวิทยาศาสตร์ไม่แน่ชัด)
               "ง้าว" มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bombax anceps var. cambodiense (Pierre) Robyns
ลักษณะของต้นงิ้ว






                                                       

  • ต้นงิ้วจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกว้างถึงขนาดใหญ่ ลักษณะของต้นเป็นรูปทรงพุ่มเป็นรูปไข่ มีความสูงของลำต้นประมาณ 15-25เมตร (บ้างว่าสูงประมาณ 25-30 เมตร) และความกว้างของทรงพุ่มประมาณ 15 เมตร ลำต้นมีลักษณะเปลาตรงและมีหนามอยู่ทั่วลำต้นและกิ่ง เห็นข้อปล้องไม่ชัดเจน ต้นอ่อนจะเป็นสีเขียวอ่อน เมื่อแก่จะเป็นสีเขียวเข้ม ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เมล็ด โดยจะพบขึ้นในที่ราบและตามป่าเบญจพรรณ ตามเชิงเขาและไหล่เขาที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 100-600 เมตร ซึ่งในปัจจุบันต้นงิ้วจะหาดูได้ยากมาก จะมีปลูกเฉพาะถิ่นทางภาคเหนือไม่กี่ที่เท่านั้น

  • ใบงิ้วใบเป็นใบประกอบแบบนิ้วมือ มีใบย่อยประมาณ 3-7 ใบเรียงสลับกัน ลักษณะของใบเป็นรูปรีถึงรูปไข่ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบเรียว ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1.5-2.5 นิ้ว และยาวประมาณ 6-10 นิ้ว ใบสีเขียวไม่มีขน แผ่นใบค่อนข้างหนาและเกลี้ยง ก้านช่อใบยาว โคนก้านบวมเล็กน้อยดอกงิ้ว ดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกตามปลายกิ่งหรือตามปลายยอด ดอกมีขนาดใหญ่สีชมพูแกมเลือดหมู สีแดง สีแสด และมีที่เป็นสีทองแต่หาได้ยาก ดอกมีกลิ่นหอมเอียน ออกดอกเป็นกระจุกหรือเป็นกลุ่ม กลุ่มละประมาณ 3-5 ดอก ฐานรองดอกเป็นรูปถ้วยแข็ง ๆ หรือเป็นกลีบเลี้ยงติดกัน ปลายแยกออกเป็น 5 กลีบขนาดเล็ก สีเขียวอ่อน ส่วนกลีบดอกมีขนาดใหญ่และหนา มี 5 กลีบเป็นรูปขอบขนาน เมื่อดอกบานเต็มที่จะมีขนาดกว้างประมาณ 8-10 เซนติเมตร ปลายกลีบจะแผ่ออกและม้วนกลับมาทางขั้วของดอก หลุดร่วงได้ง่าย ดอกมีเกสรตัวผู้เป็นเส้นยาวจำนวนมาก เรียงกระจายเป็นวงรอบ สีขาวปนสีชมพู ส่วนเกสรตัวเมียมี 1 ก้าน สีชมพู บริเวณปลายเป็นจุดสีเข้มมีความเหนียว ส่วนรังไข่จะอยู่เหนือวงกลีบ โดยจะออกดอกในช่วงระหว่างเดือนมกราคมต่อเนื่องเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี และจะทิ้งใบก่อนมีดอก



    • ผลงิ้ว หรือ ฝักงิ้วผลมีลักษณะยาวรีคล้ายฝักรูปทรงกระบอก ที่ปลายทั้งสองข้างของผลจะแหลม ผลเมื่ออ่อนเป็นสีเขียว เมื่อแก่จะเป็นสีน้ำตาล เปลือกของผลแข็ง มีความยาวประมาณ 6-8 นิ้ว และเมื่อแก่จัดจะแตกอ้าออกตามรอยประสาน ในผลมีเส้นหรือปุยสีขาวและมีเมล็ดขนาดเล็กจำนวนมาก ลักษณะเป็นรูปทรงกลมสีดำ และถูกห่อหุ้มด้วยปุยฝ้ายสีขาว ๆ สามารถปลิวไปตามลมได้ไกล


สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประโยชน์และสรรพคุณของ งิ้วคลิกที่นี้

แหล่งอ้างอิง

1. ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์.  "งิ้ว".  อ้างอิงใน: หนังสือพรรณไม้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม 1.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.qsbg.org.  [7 ม.ค. 2014].
2. การดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนดาราพิทยาคม.  "งิ้ว, งิ้วบ้าน, งิ้วหนาม".  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.drpk.ac.th.  [7 ม.ค. 2014].
3. ไทยรัฐออนไลน์.  "งิ้ว เป็นอาหารมีสรรพคุณและประโยชน์".  (นายเกษตร).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.thairath.co.th.  [7 ม.ค. 2014].
4. ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม.  "ต้นงิ้ว วัดห้วยหลาด อำเภอรัตภูมิ".  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.m-culture.in.th.  [7 ม.ค. 2014].
5. Samuel, A.J.S.J., Kalusalingam, A., Chellappan, D.K., Gopinath, R., Radhamani, S., Husain, H. A., Muruganandham, V., Promwichit, P. 2010. Ethnomedical survey of plants used by the orang asli in kampong bawong, Perak, West Malaysia. Joutnal of Ethnobiology and Ethnomedicine. 6:5
6. ลานธรรมจักร.  "ต้นงิ้ว วิมานฉิมพลีของนางกากี".  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.dhammajak.net.  [7 ม.ค. 2014].
7. องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้.  "ดอกงิ้ว สมุนไพรไทย แคลเซียมสูง รักษาสารพัดโรค".  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.fio.co.th/p/magazine_fio/files/5503.pdf.  [7 ม.ค. 2014].
8. ภูมิปัญญาอภิวัฒน์.  "สมุนไพรเปลือกงิ้วต้มกินแก้ไตพิการ".  (สมหวัง วิทยาปัญญานนท์).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.budmgt.com.  [7 ม.ค. 2014].
9. รักบ้านเกิด.  "การใช้งิ้วแดงรักษาโรคความดันโลหิตสูง".  (บรรทม จิตรชม).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.rakbankerd.com.  [7 ม.ค. 2014].
10. โครงการเผยแพร่ข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นบนพื้นที่สูง สถาบันวิจัยและพัฒนาที่สูง (องค์กรมหาชน).  "Kapok tree".  อ้างอิงใน: หนังสือชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย (เต็ม สมิตินันทน์).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก:eherb.hrdi.or.th.  [7 ม.ค. 2014].
11. ระบบฐานข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชน สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน).  "งิ้วแดง".  (ฉันท์ฐิตา ธีระวรรณ).  อ้างอิงใน: thrai.sci.ku.ac.th/node/1694.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.bedo.or.th.  [7 ม.ค. 2014].
12. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย  (วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม).
13. สมุนไพรดอตคอม.  "งิ้วแดง".  (manji).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.samunpri.com.  [7 ม.ค. 2014].
14. คณะนิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ.  "มารู้จัก... ต้นงิ้ว กันเถอะ".  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: forensic.rpca.ac.th/pdf/bombax.pdf.  [7 ม.ค. 2014].
15.  https://medthai.com/งิ้ว /  เข้าถึงออนไลน์ได้จาก  https://medthai.com/งิ้ว / [15 /04/2019]



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น