ขี้เหล็กเลือด
ชื่อวิทยาศาสตร์: Senna
timoriensis (DC.) H.S.Irwin & Barneby (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์
Cassia timoriensis DC.) จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยราชพฤกษ์ (CAESALPINIOIDEAE หรือ CAESALPINIACEAE)
สมุนไพรขี้เหล็กเลือด มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ: ขี้เหล็กคันชั่ง ขี้เหล็กตาซี ขี้เหล็กแดง
ขี้เหล็กยายชี ขี้เหล็กปันช่าง บี้ตะขะ ช้าขี้เหล็ก ขี้เหล็กแมลงสาบ (เชียงใหม่),
มะเกลือเลือด (ราชบุรี), กะแลงแง็น
(นราธิวาส), ขี้เหล็กคันชั่ง ขี้เหล็กแดง (ภาคเหนือ),
ขี้เหล็กดง (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), ขี้เหล็กป่า
(ภาคตะวันออกเฉียงใต้), กะแลงแงน ขี้เหล็กนางชี
ขี้เหล็กเลือด ช้าขี้เหล็ก (ภาคใต้), ปี้ตะขะ
(ละว้า-เชียงใหม่), แมะขี้เหละที แมะแคะแหล่ะ
(กะเหรี่ยง-แม่ฮองสอน), จี้ลีหลอย (เงี้ยว-แม่ฮองสอน)
เป็นต้น
ลักษณะของขี้เหล็กเลือด
- ต้นขี้เหล็กเลือด จัดเป็นพรรณไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
มีลักษณะคล้ายขี้เหล็กบ้าน ลำต้นมีความสูงได้ประมาณ 8-15 เมตร
เปลือกลำต้นเป็นสีน้ำตาลเข้ม
ตามกิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนสีน้ำตาลหรือสีเหลืองถึงสีเหลืองทองขึ้นปกคลุม
ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด เจริญเติบโตได้ในดินทั่วไป มีเขตการกระจายพันธุ์กว้าง
พบได้ตั้งแต่ศรีลังกา พม่า กัมพูชา ลาว
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปจนถึงทางตอนเหนือของออสเตรเลีย
ส่วนในประเทศไทยพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ โดยมักขึ้นตามป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง
ป่าราบ ป่าผลัดใบ ชายป่าที่แห้งแล้ง สองข้างถนน หรือบางครั้งพบขึ้นตามเขาหินปูน
- ใบขี้เหล็กเลือด ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ออกตรงข้ามกัน มีใบย่อยประมาณ 10-20 คู่ แกนกลางยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร
มีขนสั้นนุ่ม ก้านใบประกอบยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร
ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปรีแกมขอบขนาน ปลายใบแหลมสั้น ๆ หรือเป็นติ่ง โคนใบมนหรือกลม
ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร
และยาวประมาณ 2-6 เซนติเมตร
แผ่นใบเกลี้ยงหรือมีขนสั้นนุ่มทั้งสองด้านของแผ่นใบ ก้านใบย่อยสั้น
ท้องใบเป็นสีแดง มีหูใบเป็นรูปติ่งหู ขนาดประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร
- ดอกขี้เหล็กเลือด ออกดอกเป็นช่อแยกแขนงแบบหลวม ๆ โดยจะออกตามซอกใบ ยาวประมาณ 10-30
เซนติเมตร เกลี้ยงหรือมีขน ใบประดับเป็นรูปไข่ ปลายแหลม
ยาวประมาณ 2.5 เซนติเมตร หลุดร่วงได้ง่าย
ก้านดอกย่อยยาวประมาณ 1-3 เซนติเมตร มีขนสั้นนุ่ม
ส่วนกลีบเลี้ยงเป็นรูปขอบขนานแกมรูปไข่ ปลายกลม ยาวไม่เท่ากัน โดยจะยาวประมาณ 0.7-1.5
เซนติเมตร มีขนสั้นนุ่มด้านนอก
สำหรับกลีบดอกนั้นจะเป็นสีเหลืองสด กลีบดอกมี 5 กลีบ
ลักษณะของกลีบดอกเป็นรูปวงรีหรือรูปไข่กลับ ยาวประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร โคนกลีบดอกแหลม มีก้านกลีบสั้น ๆ ดอกมีเกสรเพศผู้ 10 อัน 2 อันมีขนาดใหญ่กว่า ก้านเกสรยาวประมาณ 2-4
มิลลิเมตร อับเรณูยาวประมาณ 8-10 มิลลิเมตร
เกสรเพศผู้อีก 5 อัน มีอับเรณูขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย
อับเรณูมีช่องเปิดที่ปลาย เกสรเพศผู้ที่ลดรูปจะมี 3 อัน
ขนาดยาวประมาณ 2 มิลลิเมตร
รังไข่และก้านเกสรเพศเมียเกลี้ยง ยอดเกสรมีขนาดเล็ก โดยจะออกดอกในช่วงประมาณเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม
- ผลขี้เหล็กเลือด ผลมีลักษณะเป็นฝักขนาดเล็ก ฝักเป็นรูปแถบ แบน และเกลี้ยง
ฝักมีขนาดกว้างประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 8-16
เซนติเมตร เมื่อแก่จะเป็นสีน้ำตาลเข้ม กระเปาะแตกได้
ภายในมีเมล็ดสีน้ำตาลหลายเมล็ด หรือประมาณ 10-30 เมล็ด
เมล็ดมีลักษณะเป็นรูปรีแบนและเป็นมันวาว เมล็ดมีขนาดกว้างประมาณ 5 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 7 มิลลิเมตร
โดยจะติดผลในช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม
แหล่งอ้างอิง : หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1.
(ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, ธวัชชัย
มังคละคุปต์). “ขี้เหล็กเลือด (Kii Lek
Lueat)”. หน้า 66.
หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5. (ดร.วิทย์
เที่ยงบูรณธรรม). “ขี้เหล็กเลือด”. หน้า 145-146.
สำนักงานหอพรรณไม้
สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช, กรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. “ขี้เหล็กเลือด”. [ออนไลน์].
เข้าถึงได้จาก : www.dnp.go.th/botany/. [30 ม.ค. 2015].
โครงการเผยแพร่ข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นบนพื้นที่สูง, สถาบันวิจัยและพัฒนาที่สูง (องค์กรมหาชน). “ขี้เหล็กเลือด”. อ้างอิงใน :
หนังสือชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย (เต็ม สมิตินันทน์). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : eherb.hrdi.or.th.
[30 ม.ค. 2015].
ฐานข้อมูลชนิดพรรณพืช พื้นที่เขื่อนศรีนครินทร์
จังหวัดกาญจนบุรี. “ขี้เหล็กเลือด”.
[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.en.mahidol.ac.th/conservation/.
[30 ม.ค. 2015].
medthai.com." 10 สรรพคุณและประโยชน์ของต้นขี้เหล็กเลือด
!
".[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://medthai.com/ขี้เหล็กเลือด [09/04/2019]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น