หน้าเว็บ

พลู สมุนไพร



พลู

ชื่อสามัญ  Piper  betle  Linn.

ชื่อวงศ์  Fam. : PIPERACEAE

ชื่ออื่น  พลูจีน , พลูเหลืองพลูทองพลูทางหลาง , พลูเขียว ,ปู (เหนือ)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ต้นเป็นพรรณไม้เถาเลื้อยยาว  ก่อนที่ จะปลูกพรรณไม้นี้ต้องหาค้างให้มันยึดเกาะ และจะมีรากเป็นกระจุกออกมาตามเถา สามารถจับแน่น  กับสิ่งที่มันยึดเกาะอยู่





  • ใบ เป็นใบเดี่ยว  ใบอ่อนจะเป็นสีเขียว และใบแก่สีจะเข้มขึ้น  ก้านใบมีความยาวประมาณ  5  ซม. จะออกตามเถาบริเวณตา  ใบ จะมีกลิ่นฉุน  พลูนั้นจะมีหลายชนิดคือพลูจีน  พลูเหลือง  พลูเขียว  และพลูทองหลาง
  • รากพลูรากใต้ดินของพลู เป็นระบบรากฝอย (ต้นจากการปักชำ) โดยพลูประกอบด้วยราก 2 ชนิด คือ รากหาอาหาร และรากยึดเกาะ โดยรากยึดเกาะบางครั้งเรียกว่า รากตุ๊กแก แตกออกตามข้อของลำต้นเพื่อยึดเกาะวัสดุสำหรับช่วยพยุงลำต้นเลื้อยขึ้นที่สูงได้ และทำให้ลำต้นไม่หลุดร่วงลงสู่พื้นได้ง่าย ส่วนรากใต้ดินประกอบด้วยรากขนาดใหญ่ และรากแขนงที่แตกออกเป็นวงกว้างตามขนาดทรงพุ่ม

  • ลำต้นพลูเป็นไม้เลื้อย ลำต้นเป็นปล้อง และมีข้อ ขนาดลำต้น 2.5-5 ซม. ลำต้นมีลักษณะอวบน้ำ และมีร่องเล็กๆสีน้ำตาลอมแดงตามแนวยาวของลำต้น สันร่องมีสีเขียว โดยลำต้นส่วนปลายจะมีสีเขียว ส่วนลำต้นส่วนต้นจะมีสีเขียวอมเทา

  • ดอกพลู มีสีขาว ออกรวมกันเป็นช่อ มีช่อดอกแบ่งเพศกันอยู่คนละต้น ประกอบด้วยช่อดอกตัวเมีย และดอกตัวผู้ มีใบประดับดอกขนาดเล็กรูปวงกลม ช่อดอกตัวผู้ยาว 2-12 ซม. ก้านช่อดอกยาว 1.5-3 ซม. ประกอบด้วยเกสรตัวผู้ 2 อัน มีขนาดสั้นมาก ส่วนช่อดอกตัวเมียมีความยาวเท่ากับช่อดอกตัวผู้ แต่มีก้านช่อดอกยาวกว่า ดอกมักบานไม่พร้อมกัน จึงทำให้ไม่ค่อยพบเห็นผลของพลู เพราะมีโอกาสผสมเกสรน้อย
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสรรพคุณและประโยชน์ของพลู คลิกที่นี้

แหล่งอ้างอิง

1. บุษบาวดี พุทธานุ, 2540. สารต้านเชื้อราและฆ่าลูกน้ำยุงจากใบพลู.
2. ลัดดาวัลย์ บุญรัตนกรกิจ, 2527. การทำยารักษาโรคผิวหนังจากสารสกัดใบพลู.

3. ศูนย์ข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, 2523. ก้าวไปกับสมุนไพร เล่ม 2. ธรรมกมลการพิมพ์.

4. ปิยะวดี เจริญวัฒนะ, 2550. การทดสอบฤทธิ์ทางชีวภาพจากสารสกัดจากสะค้านและพลูในการยับยั้งการเจริญของเชื้อราบางชนิด
5..https://puechkaset.com/พลู /เข้าถึงออนไลน์ได้จาก  https://puechkaset.com/พลู // [15 /04/2019]




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น