หน้าเว็บ

นมช้าง


ชื่อวิทยาศาสตร์: Uvaria cordata (Dunal) Alston (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Guatteria cordata Dunal) จัดอยู่ในวงศ์กระดังงา
สมุนไพรนมช้าง มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ:  กาเลียบ นมควาย (นครศรีธรรมราช), นมแมวใหญ่ (ชุมพร), นมวัว (สุราษฎร์ธานี), กล้วยหมูสัง (ตรัง), ลาเกาะ (มลายู-นราธิวาส), ชูเบียง (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) เป็นต้น

ลักษณะของนมช้าง

  • ต้นนมช้าง จัดเป็นพรรณไม้เถาขนาดใหญ่ สามารถเลื้อยไปได้ไกลถึง 20 เมตร เนื้อไม้แข็ง กิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนสีน้ำตาลขึ้นปกคลุม ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วน ชอบแสงแดดและน้ำในระดับปานกลาง มีถิ่นกำเนิดในอินเดีย ศรีลังกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทยพบได้ทุกภาคตามป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง และตามป่าผสมผลัดใบ


  • ใบนมช้าง ใบเป็นเดี่ยว ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่หรือรูปวงรีแกมขอบขนาน ปลายใบมนหรือแหลม โคนใบมนหรือหยักเว้าเล็กน้อยคล้ายรูปหัวใจ ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 6-13 เซนติเมตร และยาวประมาณ 14-23 เซนติเมตร แผ่นใบหนาแข็ง ท้องใบมีขนสีน้ำตาล เส้นใบค่อนข้างถี่ ก้านใบยาวประมาณ 1 เซนติเมตร มีขน


  • ดอกนมช้าง ออกดอกเดี่ยวหรือออกเป็นกระจุกประมาณ 1-3 ดอก โดยจะออกบริเวณซอกใบใกล้กับปลายยอด ดอกเป็นสีแดงเข้ม มีกลีบดอก 6 กลีบ แบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นละ 3 กลีบ กลีบดอกเป็นรูปเกือบกลม ปลายมน สีแดงเข้ม ยาวประมาณ 1.2 เซนติเมตร กลีบดอกมีขนทั้งด้านนอกและด้านใน ส่วนกลีบเลี้ยงดอกมี 3 กลีบ ลักษณะเป็นรูปไข่ กว้างเกือบกลม ปลายมน และมีขนสั้นหนานุ่มทั้งสองด้าน ดอกมีเกสรเพศผู้จำนวนมาก รูปทรงกลม ปลายมน ออกดอกในช่วงประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน



  • ผลนมช้าง ออกผลเป็นกลุ่ม ๆ มีผลย่อยประมาณ 20-35 ผล ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกระบอกแกมรี ยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร ผิวผลเรียบ ผลอ่อนเป็นสีเขียวอมเหลือง ส่วนผลสุกเป็นสีเหลืองอมส้มหรือสีม่วงแดง ภายในผลมีเมล็ดจำนวนมาก เมล็ดเป็นสีน้ำตาลเข้ม

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประโยชน์และสรรพคุณของต้นนมช้าง คลิกที่นี่

แหล่งอ้างอิง: medthai.com."นมช้าง สรรพคุณและประโยชน์ของต้นนมช้าง 4 ข้อ !".[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://medthai.com/นมช้าง[09/04/2019]



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น